ถ้าพูดถึงการแต่งเพลงป๊อบทั่วไปแล้ว หลายคนคงมีวิธีการที่ต่างกันออกไป บางคนถนัดแต่งเนื้อก่อน แล้วค่อยแต่งทำนอง บางคนอาจแต่งทำนองก่อนแล้วค่อยแต่งเนื้อ บางคนก็แต่งๆ มันไปเลย..
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้แต่งเองค่ะ ว่าจะเริ่มต้นการแต่งเพลงจากตรงไหนก่อน...เพื่อให้มันออกมาเป็นเพลงที่ไพเราะที่สุด...แล้วแต่ถนัดเลย....
แต่จะว่าไปแล้ว "การแต่งเพลง" ก็เป็นศิลปะทางความคิดอย่างหนึ่งที่ผู้แต่งต้องใช้จินตนาการในเรื่องของเสียงและถ้อยคำ ...ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวในบทเพลง ที่มีทั้งความหมายและความไพเราะ ^^
การที่จะแต่งเพลงๆนึงจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้ Rejanecy* ขอแนะนำการแต่งเพลงในรูปแบบที่คิดว่าง่ายให้กับมือใหม่ที่กำลังหัดแต่งเพลงนะคะ ขั้นตอนการแต่งเพลงของ Rejanecy* มีดังนี้
1. สร้างทางเดินคอร์ด -- ชุดทางเดินคอร์ดที่สร้างมาจะเอามาวางไว้เป็นท่อนไหนของเพลงก็ได้ หรือจะใช้ทางเดินคอร์ดนี้เป็นคอร์ดวนเล่นซ้ำไปทั้งเพลงก็ได้
ทางเดินคอร์ดก็คือ โครงสร้างคอร์ดของเพลง อย่างเช่นเพลง Price Tag ของ Jessy J เพลงจะประกอบไปด้วยคอร์ด F-C-Dm-Bb เรียงกันทั้งเพลง ....นี่ก็คือชุดทางเดินคอร์ดของเพลงนี้ ซึ่งสามารถเขียนเป็นเลขโรมันได้ในแบบที่เราเห็นตามหนังสือคอร์ดทั่วไป ก็คือ I-V-VI-IV ---(เพลงอยู่ในคีย์ F คอร์ด F จึงเป็นคอร์ด I)
เราสามารถคิดทางเดินคอร์ดเองตามความต้องการเลยค่ะ .......การสร้างทางเดินคอร์ดก่อน เป็นการคิดโครงหลักคอร์ดของเพลง ทำให้ทราบถึงแนวโน้มของทำนองเพลงที่เกิดขึ้นได้
บางที ถ้าขี้เกียจคิดทางเดินคอร์ด ก็อาจลอกทางเดินคอร์ดมาจากเพลงเพราะๆ หรือเพลงที่ชอบก็ได้ค่ะ
สำหรับผู้ที่อยากคิดทางเดินเองก็อาจลองกดคอร์ดกับเปียโน โดยกดไล่เปลี่ยนคอร์ดตามจังหวะไปเรื่อยๆดู แล้วถ้าชอบคอร์ดชุดไหนก็เอาชุดนั้นไว้แต่งเพลงก็ได้ค่ะ
2. แต่งทำนอง --หลังจากที่ได้คอร์ด แล้วก็ดำเนินการแต่งทำนองตามคอร์ด และบันไดเสียง(คีย์) ที่เลือก
การแต่งทำนองนี่....ต้องใช้จินตนาการส่วนตัวค่ะ....คุณอาจจะต้องฟังเพลงมากๆเพื่อรวบรวมแนวทำนองที่หลากหลายไว้เ้ป็นแนวคิดในการแต่งเพลงค่ะ --จากภาพ (a) และ (b) ใช้ทางเดินคอร์ดชุดเดียวกัน แต่มีแนวทำนองไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ เพลง (b) แต่งจากการใช้ทางเดินคอร์ดจากเพลง (a) และแต่งทำนองใหม่
3. แต่งเนื้อร้อง -- คือขั้นตอนที่คุณต้องสรรหาถ้อยคำมาเรียงในแนวทำนองที่คิดไว้....คือหาคำ หรือประโยคมาร้องให้เป็นเพลง ตามทำนองที่คิดไว้ในข้อ 2 .....ซึ่งกว่าจะทำให้มันเป็นเพลงได้ ก็ต้องคิดคำและประโยคให้มันเป็นเรื่องราวราวต่อกัน และมีสัมผัสคล้องจองบ้าง (แต่ส่วนใหญ่แล้วสัมผัสคล้องจองจะลงตอนที่มีการเปลี่ยนแนวทำนอง ^^)
4.แก้ไข --อาจมีการแก้ไขทำนองให้ไพเราะ...แก้ไขเนื้อร้องให้มันฟังคล้องจอง หรือมีความหมายที่ดีขึ้น....หรืออาจเพิ่มสีสันให้คอร์ด ด้วยการใช้คอร์ด Sus หรือคอร์ดแทนอื่นๆ....และอาจมีการเพิ่มท่อนซ้ำ เปลี่ยนคีย์ เพิ่มท่อน Pre-Chorus ให้เพลง แบ่งช่วงแรกของเพลงเป็น Verse 1 Verse 2 เป็นต้น
5. ทำเพลง ---คือขั้นตอนที่บันทึกเพลงเพื่อเก็บไว้ฟังหลังจากที่แต่งเพลงได้แย้วว!!
ความจริงแล้วขั้นตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แล้วแต่วิธีเลย..ว่าจะเลือกบันทึกเสียงในรูปแบบไหน ....บางคนอาจอัดใส่มือถือ...กล้องวิดีโอ...mp3 ทั้งนี้เราก็ต้องคำนึงถึงคุณภาพเสียงที่ออกมาด้วย.... หรือถ้าอยากให้มันออกมาดีๆเลย ก็...คงต้องไปจ้างอัด ซึ่งต้องใช้เงินมากมหาศาล มันก็เสียดายเปล่า
แต่วิธีที่ Rejanecy* คิดว่าเป็นวิธีที่ดีสุดก็คือการทำ Home Studio (การบันทึกเสียงด้วยตัวเองโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ซักตัว) ก็น่าจะเป็นวิธีที่ Work สุดๆ โดยที่ไม่ต้องไปเสียตังค์มากมายขนาดนั้นเพียงแค่มีคอม มีไมค์และโปรแกรมก็ทำได้แล้ว อีกทั้งโปรแกรมทำเพลงดีๆ ก็มีให้เลือกมาก...แต่ทั้งนี้ คุณๆที่อยากทำ Home Studio ด้วยตัวเอง ก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจการใช้โปรแกรมให้ดีก่อน
ป.ล. การแต่งเพลงของคุณไม่จำเป็นต้องทำตามที่ Rejanecy* แนะนำก็ได้ค่ะ.....Rejanecy* แค่คิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายกว่าวิธีอื่นๆ สำหรับผู้เริ่มต้นน่ะค่ะ.... แต่ถ้าใครมีวิธีที่ง่ายกว่านี้ก็ทำไปโลด...หรือถ้ารู้แล้วก็เอามาบอกกันก็ได้นะ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น